บทความฟุตบอล | ดิเอโก้ มาราโดนา ย้อนอดีตเกมสุดท้าย
ก่อนอำลาวงการลูกหนัง
บทความฟุตบอล | ดิเอโก้ มาราโดนา หลังจากที่ใช้เวลาทั้งชีวิตในอาชีพค้าแข้งด้วยการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองรวมถึงเจ้าตัวมักจะมีปัญหาในทุก ๆ ที่ที่ได้ย้ายเข้าไป มันก็เลยมีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้นที่ “ดิเอโก้ มาราโดนา” จะจบเส้นทางการเป็นนักเตะของตนเองลงได้
ในวันที่ 25 ตุลาคม 1997 มาถึง “มาราโดนา” ก็ไม่ใช่คนเดิมที่เรารู้จักกันอีกต่อไปแล้ว นั่นก็เพราะว่าเขาเหลือเวลาอีก 5 วัน เท่านั้น ก่อนจะถึง วันเกิดปีที่ 37 ของเขา ผู้เล่นชาว อาร์เจนตินารายนี้คือนักเตะระดับตำนานกำลังต่อสู้กับปีศาจร้ายที่พยายามกัดกินร่างกาย และจิตใจ แต่ว่า “มาราโดนา” ก็ได้พยายามที่จะต่อสู้อยู่เบื้องหลังเพื่อพยายามเอาชนะพวกมัน
ชีวิตส่วนตัวภายนอกสนามของ “มาราโดนา” เคยได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานการกุศลต่อต้านสิ่งเสพติดหลายแห่งเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้รวมทั้งคุ้มครองไม่ให้คนอื่นได้หลงเดินในเส้นทางที่ผิดที่เขาเคยพลาดพลั้งมาก่อน ในช่วงเวลาที่เจ้าตัวยังเป็นนักตังอาชีพอยู่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้จ้าง “เบ็น จอห์นสัน” อดีตนักวิ่งระยะสั้นชาว แคนาดา ให้พยายามช่วยทำให้เขากลับมาฟิตเหมือนดั่งอดีตได้อีกครั้ง หนึ่งในวิธีการของเขาทำให้กุนซืออย่าง “โบคา จูเนียร์ส” รู้สึกอึ้งก็คือ การที่เจ้าตัวสั่งให้ถอดประตูห้องแต่งตัวออกเพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับติดตั้งลู่วิ่งขนาดใหญ่
อันที่จริงแล้วไม่มีอะไรที่จะสามารถอะไรช่วยเขาได้ ทดลองใช้สารเสพติดที่ล้มเหลวในเดือนสิงหาคม 1997 ทำให้รัฐบาลเลือกที่จะปกปิดความจริงทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ – ในระหว่างที่ก็ค่อย ๆ มีอาการบาดเจ็บที่กำลังก่อตัวมาอย่างไม่ขาดก็แสดงให้เห็นแล้วว่าช่วงเวลาของ มาราโดนา จะต้องจบลงในก่อนที่ทุกอย่างจะจมดิ่งไปกว่านี้
ในการแข่งขันที่กำลังเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ซูเปอร์กลาซิโก กับทัพศัตรูคู่ปรับอย่าง “ริเวอร์เพลท” ที่จะเป็นนัดสุดท้ายในการปิดฉากเส้นทางอาชีพวงการลูกหนังของเจ้าตัว
หากพูดถึงผลงานในโลกลูกหนังของเจ้าตัวเพียงอย่างเดียวละก็ ถือว่า “มาราโดนา” ทำผลงานได้ไม่ค่อยโดดเด่นซักเท่าไหร่ เขาได้ลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้และก็มีท่าทางไม่ได้ต่างอะไรจากผู้เล่นวัย 36 ปีที่กำลังดิ้นรนที่จะจบศึกนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อถึงพักครึ่ง ได้มีรายงานว่าเจ้าตัวถูกสับออกจากเกมเพื่อเปิดช่องให้แก่ผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะมาสานต่อตำนานของ “ฮวน โรมัน ริเก”
เขานั่งมองเกมที่เหลือจากที่นั่งข้างสนาม ซึ่งมันสร้างความหงุดหงิดให้กับแฟนคลับริเวอร์ ด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยแบบเด็ก ๆ ช่วงเวลาที่ “โบคา” ซัดลูกเตะเข้าไปตุงตาข่ายสองครั้งพร้อมกับคว้าชัย 2-1 – ต่อจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก็คงไม่มีใครว่าการมาชมการแข่งขันในครั้งนี้จะการเล่นของนักฟุตบอลที่เลืองลือที่สุดในยุคนนั้นเป็นครั้งสุดท้าย
ห้าวันถัดมา ได้มีรายงานเกี่ยวกับการทดลองสารเสพติดที่ล้มเหลวเริ่มแพร่ออกสื่อ “มาราโดนา” จึงใช้วันเกิดปีที่ 37 ของเขาเป็นการกล่าวอำลาเหล่าเพื่อนร่วมงาน และแฟนบอลทั้งหลาย
“ผมทำไม่ได้อีกแล้ว” เจ้าตัวได้กล่าว “มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะเล่นต่อไป ผมต้องการจะแขวนสตั๊ดในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเรื่องดีเสียกว่าการใช้เวลาในช่วงบั่นปลายชีวิตของผม ฟังข่าวลือที่ถูกปล่อยมาจากคนไร้หัวใจบางคนที่มีไมค์อยู่ในมือ”
“ด้วยหัวใจที่เอาจริงเอาจัง ตอนนี้มันคงถึงเวลาที่ผมจะกล่าวอำลาแวดวงของผมแล้ว อาชีพของผมยุติลงแล้ว และไม่มีใครคนไหนรู้สึกเจ็บปวดไปกว่าผม”
มาราโดนา ควรสร้างอิมแพคท์ให้หนักแน่นกว่านี้ในสนามในเกมสุดท้ายของเขา แต่ว่าเนื่องมาจากเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เจ้าตัวเลยเลือกงานอดิเรกที่รองลงมา อย่างงานยุแหย่แฟน “ริเวอร์” และก็มองถึงชัยชนะของ โบคา